Lost and Found by Google

Friday 9 April 2010

Newcastle Rocks the Island !

พอดีงานและธุระเสร็จหมดแล้ว ก็เลยมีเวลามาอัพให้ได้อ่านกัน จริงๆที่เห็นมาอัพตอนเช้าขนาดนี้ เพราะว่าเมื่อวานผมหลับไปตั้งแต่สามทุ่มเศษๆได้ เนื่องจากวันพฤหัสได้นอนไปแค่ชั่วโมงเดียวเพียวๆ ก็เอาละอัพกันแต่เช้าเลยละกัน หลายคนที่สนใจบอลอังกฤษก็คงพอจะทราบข่าวกันแล้วว่า Newcastle United ที่ตกชั้นไปก็ได้เลื่อนชั้นกลับขึ้นมาสู้ศึกพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง แต่ผมไม่สนใจหรอกเพราะผมไม่ได้เชียร์ แต่ที่ลากมาเพราะจะเข้าเรื่องวันนี้ว่ารู้หรือไม่ใน Newcastle มีวงดนตรีทีเขย่าหัวคุณได้เมื่อฟัง รวมทั้งอาการหลุดเมื่อได้ดูการแสดงสดแบบสะใจเลยทีเดียว พวกเขาเหล่านั้นก็คือ... "Maxïmo Park"


Maxïmo Park คือวง Alternative Rock จากเมือง Newcastle ที่มีสมาชิก 5 คนประกอบไปด้วย
  • Paul Smith (Vocals)
  • Duncan Lloyd (Guitar)
  • Archis Tiku (Bass)
  • Lukas Wooller (Keyboard)
  • Tom English (Drums)
วงได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อราวปี 2000 โดยสมาชิกสมาชิกสี่คน โดยชื่อของวงได้มาจากการช่วยกันคิดของ Duncan และ Archis โดยเอาชื่อของ Máximo Gómez Park มาปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นชื่อใหม่ที่ใช้อยู่ ช่วงแรกเริ่มของวงก็ตระเวนทัวร์ออกแสดงไปเรื่อยๆตามงานแสดงเล็กๆรวมทั้งงาน Manchester 'In the City' ที่เป็นงานแสดงของวงที่ไม่มีสังกัดค่ายใดๆในเกาะอังกฤษ ภายหลังจากนั้นแฟนของมือกลองก็ได้แนะนำให้รู้จักเพื่อนคนนึงที่เคยร้องเพลง "Superstitions" ร่วมกับ Stevie Wonder...

เมื่อ Paul ได้มาร่วมกับวงเดิมทีวงจินตนาการไม่ออกเลยว่าเขาจะร่วมไปกับวงด้วยได้หรือไม่ จนกระทั่ง "เมื่อได้เห็นพอลกระโดดอย่างบ้าคลั่งในชุดสูท นั่นทำให้รู้ได้ทันทีว่า นี่แหล่ะจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย" และเมื่อ Paul ได้เข้าร่วมกับวง ก็จึงได้รับเดโมทั้งหมดกลับมาเพื่อให้ไปเขียนต่อ

ประมาณมีนา 2004 วงก็ได้ลงทุนทำซิงเกิล Graffiti โดยเป็นแผ่นไวนิลขนาด 7 นิ้วทั้งหมด 300 แผ่น และภายหลังก็ได้ทำออกมาเพิ่มอีกสองซิงเกิลคือ The Coast is Always Changing และ The Night I Lost My Head โดยทำกันเองทั้งหมด และระหว่างนั้นก็แสดงสดประปรายในเมือง และได้ไปเตะตาเข้ากับ Steve Beckett แห่งค่าย Warp Records ที่เน้นดนตรีในแนว dance-electronic และก็ได้ตัดสินใจว่าจะเอาวงนี้เข้ามาอยู่กับทางค่าย

ทางวงได้มีงาน Studio ออกมาแล้วสามอัลบัม คือ A Certain Trigger (2005), Our Earthly Pleasures (2007), Quicken the Heart (2009) และอีกหนึ่ง B-Sides ในชื่ออัลบัมว่า Missing Songs (2006)

A Certain Trigger (Debut - 2005) ซึ่งอัลบัมนี้ขายไปได้ 300,000 แผ่นรวมทั้งยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Mercury Prize โดยคู่แข่งในปีนั้นมีแต่ตัวเป้งอย่าง Coldplay, Kaiser Chiefs, KT Tunstall, หรือแม้แต่วงหน้าใหม่ด้วยกันเองอย่าง Bloc Party แต่ก็กลายเป็น Anthony and the Johnsons ที่ได้รับไป

Missing Songs (2006) อัลบัมนี้เป็น Compilation ที่ประกอบด้วยงานส่วนใหญ่ที่จะเป็น B-sides แล้วก็มีงาน Demo เก่าๆก่อนจะออกอัลบัม รวมทั้งงาน Cover เพลง "Isolation" ของ John Lennon

Our Earthly Pleasures (2007) บรรลัยเกิดในอัลบัมที่สองเช่นเดียวกับ Bloc Party งานไม่ติดหู เนื้อหาไม่น่าสนใจมีเพียงซิงเกิลที่ดังอย่าง Our Velocity, Book from Boxes, Girls Who Play Guitars

Quicken the Heart (2009) กลับมาอีกครั้งหลังจากกระโหลกกะลาไปในในชุดที่แล้ว เลยกลับมาใหม่พร้อมด้วยโปรดิวเซอร์คนใหม่ Nick Launay ผู้เคยทำงานให้ศิลปินอย่าง Yeah Yeah Yeahs, Nick Cave, Talking Heads ซึ่งก็ผลออกมางานดีกว่าชุดที่สองเยอะเหมือนกัน เอาว่า NME ให้คะแนนชุดสองอยู่ที่ 6/10 พอมาชุดนี้ขึ้นไปอยู่ 8/10 เยอะกว่าชุดแรกที่ได้ไป 7/10 อัลบัมนี้เองก็ออกมาในหลายรูปแบบมากทั้ง Vinyl, CD, รวมทั้ง Special CD+DVD ซึ่งมันมีพิเศษของพิเศษตรงที่ 500 แผ่นแรกที่สั่งจากเวปของวงจะได้สุ่มลายเซ็นของสมาชิกในวง 1 คน ลงบนปก ซึ่งผมก็ได้มาแบบทันการ เดิมทีหวังว่าจะได้ลายเซ็นของ Paul Smith ไม่ก็ Tom English แต่ปรากฏว่า ได้ของ Archis Tiku ซะอย่างงั๊น โอ้วม่ายยยยยยยยยยยยยย ! ! ! ถึงจะเป็นสมาชิกของวง แต่ผมก็อยากได้ของคนอื่นมากกว่านะ ฮืออออออออออ~

*ภาคเสริม 1 Maxïmo Park เคยมาแสดงสดในเมืองไทยเมื่อครั้ง 100 Rock Festival ที่เมืองทอง โดยงานนั้นคนดูราว 80-90% ถามกันไปมารวมทั้งเพื่อนผมก็ด้วยว่า "วงอะไรวะ ?" ได้แต่ตอบไปว่ารอดูเอาแล้วกันแล้วเดี๋ยวมึงจะทึ่งสังเกตร้องนำให้ดีๆ หลังจากนั้นผ่านยังไม่ถึงครึ่งเพลงคำถามนั้นไม่อยู่ในหัวอีกต่อไป คนดูทั้งโซนกลายเป็นกระโดดกันอย่างไม่ยั้งเข้ามาแทน เดี๋ยวเอาตัวอย่าง Live มาแปะไว้ละกันครับ

**ภาคเสริม 2 รีวิวให้ดูกันไปเลยกับ อัลบัมที่สามในแบบ Special Edition ที่ประกอบด้วย CD เพลง และ DVD ชื่อ Monument เป็นแสดงสดของวงที่จัดขึ้นที่ Newcastle's Metro Radio Arena เมื่อปี 2007 และ อัลบัมรูปที่วงถ่ายไว้ระหว่างทำอัลบัมที่สาม เพื่อไม่ให้เสียอรรถรส ผมจะไม่โพสคั่นระหว่างรูป ดูกันไปเต็มๆครับ ส่วนผมขอลาตรงนี้เลยละกัน สวัสดีครับ


Live @ Reading Festival


No comments:

Post a Comment